ถ้าเอ่ยชื่อ “ขนมแชงม้า” หลายคนอาจบอกไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าบอก “ขนมปลากริมไข่เต่า” ก็พอจะรู้จักกัน เพราะยังมีทำขายกันอยู่ แต่ขนมปัจจุบันจะมีรูปลักษณ์ เปลี่ยนไปตามความสะดวก รวดเร็ว โดยใช้พิมพ์กดขนมสำเร็จ ให้เป็นเส้นยาวๆเหมือนกันทั้งปลากริม และไข่เต่า ซึ่งจริงๆแล้วขนมแชงม้า คือการนำขนม 2 ชนิดมากินคู่กัน ได้แก่
1. – ขนมปลากริม ซึ่งจะมีรสหวาน หอมกลิ่นน้ำตาลเคี่ยว ปั้นแป้งเป็นตัวยาว หัวท้ายเรียวลง
2. – ขนมไข่เต่า ซึ่งมีรสเค็มมัน ปั้นแป้งเป็นรูปกลมรี
วันนี้ก็เลยหยิบเอาสูตรไทยโบราณมาฝากกัน เป็นสูตรของสมาชิกคนเก่งพี่แป้น “Supaporn Kumnodnae” อีกเช่นเคย ไปดูกันค่ะว่ามีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง
*ส่วนผสม
1.ตัวแป้งขนม
– แป้งข้าวเจ้า 1 + 1/4 ถ้วย
– แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
– แป้งมัน 1/2 ถ้วย + 2 ชต.(ใช้ทำแป้งนวล)
– น้ำร้อน 1 ถ้วย
– กะทิ 1/4 ถ้วย
– ใบเตย 2 ใบ (ใส่ตอนต้มแป้งให้สุก)
2.น้ำกะทิลอยไข่เต่า
– หัวกะทิ 1 ถ้วย
– ดอกเกลือ 1/2 ชช.
– ใบเตย 2 ใบ
3.น้ำเชื่อมลอยปลากริม
– น้ำตาลโตนด 1/2 ถ้วย
– หางกะทิ 1/2 ถ้วย
*วิธีทำ
1.ผสมแป้งเข้าด้วยกัน ทยอยใส่น้ำร้อนลงไป ใช้พายคนให้เข้ากัน พอแป้งเริ่มจับตัว ทยอยใส่กะทิลงไป นวดให้เข้ากัน จนแป้งมีลักษณะเนียน ไม่ติดภาชนะ ใช้ผ้าขาวบางคลุม พักไว้ 30 นาที
– แบ่งแป้งเป็น 5 ส่วน โดย 2 ส่วนปั้นปลากริม อีก 3 ส่วนปั้นไข่เต่า
-ปลากริม ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม แล้วคลึงให้หัวท้ายเรียวลง
-ไข่เต่า ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วคลึงให้รีเล็กน้อย
-ทำจนหมดแป้ง โรยแป้งนวลไว้เพื่อไม่ให้ติดกัน
2.น้ำกะทิลอยไข่เต่า
– นำหัวกะทิ+ดอกเกลือ ขึ้นตั้งเตา พอเริ่มร้อน ใส่ใบเตยลงไป คนตลอดเวลา พอเดือดยกลง *อย่าใช้ไฟแรงเพราะกะทิจะแตกมัน
3.น้ำเชื่อมตัวปลากริม
– ใส่น้ำตาลโตนดลงในกระทะ เคี่ยวให้ได้สีออกน้ำตาลเข้มขึ้น แล้วใส่หางกะทิลงไปคลายตัวน้ำตาล เคี่ยวให้มีลักษณะข้นขึ้น ยกลงจากเตา
4.ต้มตัวแป้งให้สุก
– ตั้งหม้อต้มน้ำ พอเดือดใส่ใบเตยลงไป
– นำแป้งตัวปลากริมลงไปต้ม พอลอยตัวขึ้นให้ต้มต่อสักครู่ ใช้กระชอนตักขึ้น เขย่าๆให้สะเด็ดน้ำ แล้วใส่ลงในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ขณะที่ตัวแป้งยังร้อนอยู่
– คนให้เข้ากัน พักไว้ 30 นาที และคอยคนทุก 10 นาที เพือให้แป้งดูดกะทิได้ทั่วกัน
– นำแป้งไข่เต่าลงต้ม พอสุกลอยขึ้น ให้ต้มต่อสักพัก เพราะไข่เต่าจะสุกยากกว่าปลากริม
– ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วใส่ลงในน้ำเชื่อมที่เคี่ยวไว้ ขณะที่แป้งยังร้อนอยู่ คนให้เข้ากัน พักไว้ 30 นาที คนทุก 10 นาที เพื่อให้แป้งดูดน้ำเชื่อมทั่วกัน
5.เวลาจะกิน ตักตัวปลากริมใส่ถ้วยก่อน แล้วจึงตักไข่เต่าใส่ด้านบนค่ะ
สมัยก่อน แม่จะแช่ข้าวค้างคืนไว้ แล้วก็ต้องมาโม่แป้ง แป้งจะเหลวต้องใช้วิธีตั้งไฟ คนเร็วๆ ให้แป้งจับตัวกันแต่อย่าให้สุก แป้งที่โม่เองจะนิ่มไม่แข็ง ของที่บ้านจะผสมแป้งท้าวยายม่อมลงไปด้วย เดิมทีตัวแป้งก็นวดต่างกันค่ะ แป้งปลากริมจะนวดน้ำอย่างเดียว ส่วนแป้งไข่เต่าจะนวดด้วยกะทิ นอกจากรสชาติต่างกัน รสสัมผัสของไข่เต่าจะนุ่มกว่าตัวปลากริม ทำเสร็จแล้วใส่หม้อดินทำให้ขนมหอม และไม่เสียง่ายด้วยค่ะ
เพื่อนๆสมาชิกแฟนเพจ อย่าลืมกลับไปลองทำเมนู ขนมแชงม้า หรือปลากริม ไข่เต่า ทานกันนะ หรือจะต่อยอดทำขายเพื่อเป็นรายได้อีกช่องทางก็นับว่าน่าสนใจทีเดียว ขอบคุณสำหรับการติดตาม ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ โปรดส่งต่อเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลสูตรและภาพจาก.Supaporn Kumnodnae
