ชวนทำ “แกงเขียวหวานไก่” สูตรโบราณหอมๆ พร้อมเทคนิคเคี่ยวกะทิให้แตกมันแบบง่ายๆ (ดูส่วนผสม)

วันนี้มีสูตรและขั้นตอนการทำแกงเขียวหวานไก่แบบโบราณมาแบ่งปันค่ะ สูตรจากคุณtamahan สมาชิกเว็บพันทิป พร้อมเทคนิคเคี่ยวกะทิให้แตกมันง่ายๆทำไว้กินคู่กับขนมจีนอร่อยๆ มาดูส่วนผสมกันก่อนเลย

*ส่วนผสม

1. พริกแกงเขียวหวาน 150 กรัม

2. หัวกระทิคั้นสด 400 กรัม

3. หางกระทิคั้นสด 600 กรัม

4. เนื้อสะโพกไก่ 600 กรัม

5. เลือดไก่ 300 กรัม

6. มะเขือเปราะ 250 กรัม

7. มะเขือพวง 100 กรัม

8. ใบโหระพา 50 กรัม

9. ใบมะกรูด 10 ใบ

10. พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม

11. น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ

12. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

13. เกลือ 1/4 ช้อนชา

**ขั้นตอน

1. เปิดไฟกลาง ใส่หัวกะทิ 200 กรัมลงไป

2. จากนั้นใส่เกลือ 1/4 ช้อนชาลงไป แล้วคนช้าๆ เป็นระยะ อย่าคนเร็วหรือคนตลอดเวลาเพราะกะทิจะร้อนช้าและแตกมันยาก

ปล. เกลือช่วยทำให้กะทิแตกมันเร็วขึ้นเพราะจะไปลดประสิทธิภาพของตัวอิมัลซิไฟเออร์ในกะทิ ทำให้น้ำและน้ำมันแยกตัวออกจากกันเร็วขึ้น จึงทำให้กะทิแตกมันง่ายขึ้นนั่นเอง วิธีนี้ใช้ได้กับกะทิสำเร็จรูปด้วย สำหรับกะทิสำเร็จรูปต้องเคี่ยวไฟกลางถึงแรง เพราะว่ากะทิสำเร็จรูปผ่านการเติมตัวอิมัลซิไฟเออร์เพิ่มเข้าไป เพื่อช่วยให้ไขกะทิไม่แยกชั้นเวลาเก็บอยู่ในกล่อง ดังนั้นกะทิสำเร็จรูปจะแตกมันยากกว่ากะทิคั้นสด

3. เคี่ยวประมาณ 3-4 นาที ก็จะเริ่มเห็นมันกะทิอยู่บริเวณขอบๆกระทะ

4. พอกะทิในเริ่มงวด ก็ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไปเคี่ยวต่อ

5. เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 4-5 นาที กะทิก็จะแตกมันตรงบริเวณขอบๆ เพิ่มขึ้นอีก

6. ตอนนี้ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป แล้วคนให้พริกแกงกับกะทิเข้ากัน (ถ้าใช้พริกแกงที่ตำเองเองด้วยจะดีมาก)

7. เร่งไฟแรงแล้วผัดพริกแกงกับมันกะทิจนหอม ตอนผัดนี่พริกแกงจะหอมมากจริงๆ

8. พอพริกแกงเริ่มสุก ใส่เนื้อสะโพกไก่ 600 กรัมลงไปผัดให้แค่เนื้อตึงๆ พอ

9. จากนั้นปรุงรส ใส่น้ำปลาลงไป 3 ช้อน

10. ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป 1 ช้อน หรือบางคนไม่ชอบหวานก็ไม่ต้องใส่เลยก็ได้เพราะกะทิก็หวานอยู่แล้ว

ปล. เหตุผลที่ใส่น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าวตอนนี้เลยคือ น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าวจะถูกผัดกับกะทิ ทำให้ทั้งสองอย่างส่งกลิ่นหอมขึ้นมาก กลิ่นจะออกมากกว่าตอนปรุงรสหลังการใส่หางกะทิแล้ว และอีกอย่างน้ำปลามีเกลือผสมอยู่ พอเวลาเราใส่หางกะทิลงไปและใส่มะเขือลงไปต้ม มะเขือจะโดนทั้งความเค็มและความร้อน ดังนั้นจึงไม่ดำแน่นอน

11. ผัดเนื้อไก่และเครื่องปรุงด้วยไฟแรงจนเนื้อไก่สุกปานกลาง

12. จากนั้นใส่หางกะทิ 600 กรัมลงไป คนให้ทุกอย่างเข้ากัน

13. เปิดไฟแรงเคี่ยวให้หางกะทิเดือดจัด สักพักมันกะทิจะลอยขึ้นมาด้านบนแบบนี้ ตอนนี้คนเป็นครั้งคราวพอ อย่าคนแกงบ่อย เพราะมันกะทิจะกระจาย ไม่น่ากิน

14. พอน้ำแกงเดือดพล่านแล้ว ใส่มะเขือเปราะ 250 กรัมลงไป

15. ต่อมาใส่มะเขือพวง 100 ตามลงไปเลย

16. คนให้มะเขือทั้งสองชนิดจมอยู่ใต้น้ำแกง และพยายามคว่ำมะเขือเปราะให้ด้านสีขาวจมน้ำ

17. เคี่ยวมาประมาณ 10 นาที มะเขือก็จะสุก สังเกตุว่ามะเขือยังเป็นสีขาวอยู่เลย

18. จากนั้นใส่เลือดไก่ 300 กรัมลงไป ต้มต่อประมาณ 5 นาทีให้เลือดไก่สุก

19. ช่วงนี้ให้ลองชิมรสชาติดู หากยังขาดรสชาติใดก็เติมได้นิดหน่อย แต่พยายามอย่าคนน้ำแกงเยอะ

ปล. ข้อเสียอีกอย่างหนึ่ง หากเราเพิ่งจะมาเริ่มปรุงรสชาติตอนนี้คือ ตอนใส่น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าวเราต้องคนน้ำแกงเยอะเพื่อให้น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าวละลาย ดังนั้นจะทำให้มะเขือเปราะเละ

20. พอรสชาติโอเคแล้ว ก็ปิดไฟ แล้วใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปประมาณ 10 ใบ

21. ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่น เพื่อเพิ่มสีสัน

22. ปิดท้ายด้วยสิ่งสำคัญคือ ใบโหระพา 50 กรัม

23. คนให้ทุกอย่างเข้ากันเป็นอันเสร็จ

24. กินคู่กับขนมจีน

25. และเคียงด้วยไข่ต้มยางมะตูมเยิ้มๆ บวกพริกน้ำปลา

26. คำแรกขอแบบคอมโบทั้งขนมจีน ไก่และไข่มะตูม

27. ต่อมาขอขนมจีนกับแกงไก่เน้นๆ ราดพริกน้ำปลาหน่อย เพิ่มความอร่อย

28. คำสุดท้ายกินแบบแกงล้วนๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ tamahan สมาชิกเว็บพันทิป