แบ่งปันสูตรขนมไทยโบราณ “ขนมสัมปันนี” อร่อยสีสวย หอม หวาน มัน ทำง่ายๆ ทำขายสร้างรายได้งาม (ดูส่วนผสม)

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มีสูตรขนมไทยโบราณหาทานยากมาฝากค่ะ มันหอมและหวานเบาๆแบบละลายในปากไปเลย นั่นก็คือขนม “สัมปันนี” นั่นเองค่ะ เป็นสูตรจากคุณPaMet สมาชิกเว็บพันทิป เป็นยังไงนั้น เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

*ส่วนผสม

ส่วนที่ 1 ส่วนของน้ำกะทิยางมะตูม (แนะนำให้ทำส่วนนี้ก่อนค่ะ เพราะใช้เวลาค่อนข้างนานมาก แล้วต้องพักให้เย็น)

1. หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วย

2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

3. สีผสมอาหาร (เราทำมา 3 ครั้งค่ะ ครั้งแรกเราใช้สีธรรมชาติจากใบเตย และสีบีทรูทแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ตอนหลังก็ใช้สีที่ผสมอาหารค่ะ เราใช้สีแดง, ฟ้า แต่ใช้น้อยมากๆเพื่อให้สีออกมาอ่อนๆพอดี)

ส่วนที่ 2 ส่วนของแป้ง

1. แป้งมันสัมปะหลัง 2 1/2 ถ้วย

2. เทียนอบควัน

**วิธีการทำ

ส่วนที่1

1. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อน ใส่หัวกะทิล้วนกับน้ำตาลทราย ตั้งไปเรื่อยๆและต้องใจเย็นๆมากเลยค่ะ เพราะตั้งไฟแรงไป เสียทั้งกระทะไม่รู้ด้วยนะ (ใครมีกระทะทองเหลืองก็ใช้ได้นะคะ แต่เราไม่มีก็เลยใช้กระทะก้นลึกเทฟลอน) ขั้นตอนนี้เราเคยลองลดน้ำตาลทรายแล้วแต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เพราะจะให้มันเป็นยางมะตูมต้องมีน้ำตาลมาเป็นตัวช่วยค่ะ

2. ระหว่างตั้งไฟ รอบกระทะจะเริ่มตกทรายนิดหน่อย ให้ใช้ไม้พายขูดขอบๆให้ไหลลงมา แล้วคนวนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกระทิกับน้ำตาลเข้ากันดี แล้วงวดจนกลายเป็นยางมะตูม ลักษณะจะคล้ายดังภาพคือ มีสีที่ข้นขาว และเคลือบไม้พายข้นๆ

3. เราแบ่งออกมาเป็นทั้งหมด 3 ถ้วย พักไว้ให้เย็น และจะผสมออกมาเป็น 3 สี ตามตัวอย่างคือ ขาว,แดง และฟ้า เสร็จจากตรงนี้ พักไว้ก่อน ใครมีใบเตยที่บ้าน หรือมีบีทรูทก็สามารถนำมาปั่นคั้นด้วยผ้าขาวบางเอาสีมาใช้ทำได้นะคะ

.

แต่ครั้งที่เราถ่ายรูปเก็บไว้เราใส่สีผสมอาหารค่ะ แต่ใส่ทีละน้อยนะคะ

ส่วนที่2

1. ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องใจเย็นมากๆ เพราะเราต้องเอาแป้งมัน ตั้งบนกระทะไฟอ่อนๆ (อ่อนจริงๆนะคะ ไหม้เร็วมาก) เพื่อทำให้แป้งสุก วิธีการดูแป้งว่าดิบหรือสุกแล้วก็คือ แป้งดิบแป้งจะดูหยาบๆเมื่อเอานิ้วขยี้บี้ๆกับนิ้ว ก็จะฝืดๆ แต่ถ้าแป้งสุก แป้งจะลื่น พื้นผิวละเอียด และจะมีสีนวลอ่อน อดทนหน่อยน้า ของอร่อยจะมาแล้ว

ลักษณะแป้งดิบ

ลักษณะแป้งสุก

2. หลังจากนั้นเราจะนำแป้งไปใส่ในหม้อที่มีฝาปิดสนิท แล้วแหวกแป้งตรงกลางออก จุดเทียนสำหรับอบควัน ปัดไฟให้เหลือแต่ควัน การเลือกเทียนสำหรับอบควันเทียนก็สำคัญเหมือนกันค่ะ เราก็ไม่เคยทราบมาก่อน แต่แม่เราบอกว่าอยากรู้ว่าเทียนนั้นหอมหรือไม่หอม ให้เอาเทียนไปลองอบผ้าก่อน แต่เราไม่ได้ทำนะ ขี้เกียจน่ะ เราก็ลองดมๆเอา ถ้าไม่มีกลิ่นธูปจัด หรือกลิ่นไหม้ก็ถือเป็นอันว่าใช้ได้

3. เราอบควันเทียนซ้ำประมาณ 5 รอบ รอบละประมาณ 10-15 นาที

.

วิธีการประกอบร่าง

1. หลังจากได้ทั้ง 2 ส่วนที่พร้อมประกอบร่างแล้ว เราจะผสมทุกอย่างทีละสีค่ะ โดยเอาแป้งมันที่คั่วจนสุกแล้วใส่ตะแกรงร่อนใส่กะทิยางมะตูม แรกก็อาจจะกวนด้วยไม้พายไปก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยๆใช้มือนวดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ไม่ติดมือ

2. ผสมทุกสีจนครบ เราจะได้ก้อนแป้ง 3 สี ใช้แรพคลุมก้อนแป้งเอาไว้ ให้แป้งไม่แห้ง ไม่งั้นจะเอาเข้าพิมพ์ยากมาก

3. คือจริงๆปกติจะใช้สีเดียวในการอัดพิมพ์แล้วใช้ได้เลยก็ได้ค่ะ แต่วันนี้เอา2สีผสมกัน โดยอยากให้ตรงกลางสีอ่อนมากกว่าด้านนอก เราเลยแบ่งเอาสีขาวปั้นเป็นก้อนกลม

4. สีที่2 เราก็จะปั้นให้อีกก้อนใหญ่กว่า ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วแผ่ออก แล้วจึงคลุมแป้งก้อนสีขาวให้คลุมประมาณ3/4 ของก้อนแรก ดังนั้นเราจะเห็นทั้งก้อนมีสีขาวออกมาเรื่อๆ

5. หลังจากนั้นเราก็นำอัดลงพิมพ์ ขอบอกว่าตอนแรกดิฉันเสร่อมากค่ะ เพราะกลัวแป้งติดพิมพ์ ก็เอาทั้งแป้ง ทั้งน้ำมันเคลือบๆ ไม่ต้องใช้เลยนะคะ เพราะตัวแป้งมีความมันจากกะทิอยู่แล้ว เราอัดเข้าไปได้เลย อันไหนมันเกินๆออกมาจะใช้มีดปาด หรือเอามือเด็ดออกก็ไม่ผิดกติกาค่ะ

มือเลอะไปหน่อย ขอโทษนะคะ

6. หลังจากนั้นเราก็กระแทกพิมพ์ กับผ้าสะอาดๆรองอยู่ ขนมก็จะออกมาเลยค่ะ

นี่คือภาพตอนออกมาจากพิมพ์ใหม่ๆค่ะ ยังมีความมันแววๆตามตัวขนมอยู่

.

7. หลังจากนี้ ขนมจะยังทานไม่ได้นะคะ ต้องทิ้งไว้ให้ตกทรายซะก่อน เราจะต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชม.จับดูจะรู้เลยค่ะ เพราะแรกๆขนมจะตึงๆ ดูจากรูปจะมันๆค่ะ แต่พอทิ้งไว้ ขนมจะแห้ง พอเอาเข้าจะละลายไปเลย

.

8. จากขั้นตอนนี้ เราอบขนมด้วยควันเทียนซ้ำอีก2-3รอบนะคะ เพื่อให้หอมนานมากขึ้น

แล้วก็เสร็จแล้วค่า ขนมสัมปันนีหวานอร่อย ละลายในปาก

.

เอาไปแช่ช่องฟรีซข้ามคืน พอเอามาทานจะคล้ายๆไอศกรีมกะทิ อร่อยไปอีกแบบ แถมขนมนี้ทำไว้แล้วเก็บได้เป็นอาทิตย์ เอามากินวันละ2-3ชิ้นกับน้ำชาก็อร่อยเพลินๆดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก PaMet สมาชิกเว็บพันทิป