สวัสดีค่ะแฟนเพจที่รักทุกท่าน “ขนมเหนียว” เคยได้ยินชื่อ หรือเคยทานกันบ้างไหมเอ่ย เป็นเมนูขนมไทยโบราณ ทานเป็นของว่าง หอมอร่อยกรุบกรอบ ชอบกันทุกวัยติดใจกันทุกคน วันนี้เรามีสูตรมาฝากกันค่ะ
*ส่วนผสม
1.ตัวแป้งขนม
– แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
– ผงถั่ว 5 สี (ถั่วเหลือง งาดำ ลูกเดือย ถั่วดำ ถั่วเขียว) 2 ชต. *ไม่ใส่ก็ได้นะคะ หรือจะใส่ฟักทองนึ่ง หรือเผือกนึ่ง ก็ได้
– น้ำใบเตย 2 ชต.
– น้ำอุ่น 1/2 ถ้วย
2.มะพร้าวคลุกขนม
– มะพร้าวทึนทึกขูด 1 ถ้วย (ใช้ที่ขูดมือแมว ขูดเส้นเล็กๆ)
– ดอกเกลือ 1/4 ชช.
3.ข้าวพอง
– ข้าวสุกตากแห้ง (วันนี้เราใช้ข้าวสุก ไปอบในเตาอบไฟ 180 C 20 นาที แทนข้าวตากค่ะ)
– น้ำมันรำข้าว ใช้สำหรับทอด 1 ถ้วย
4.น้ำเชื่อม
– น้ำตาลโตนด 1 ถ้วย
– น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย
– น้ำมะนาว 1/2 ชช.
**วิธีทำ
1.เตรียมน้ำเชื่อมราดขนม
– นำน้ำตาล+น้ำ1/4 ถ้วย ขึ้นตั้งเตาใช้ไฟแรงหน่อย เพื่อต้องทำให้สีน้ำตาลเข้มสวย คนตลอดเวลา พอได้สีเข้มตามต้องการ เติมน้ำส่วนที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันพอเดือดดี ลดไฟลงใช้ไฟกลางๆ พอน้ำตาลข้นได้ที่ ใส่น้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน ยกลงจากเตา กรองผ่านกระชอน ใส่ถ้วยพักไว้ให้เย็น
. 
2.นึ่งมะพร้าวขูด โรยดอกเกลือลงไป นึ่งประมาณ 5 นาที เทออกใส่ถาดไว้
3.นำข้าวแห้ง ไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ให้ข้าวพองกรอบ ตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
.
4.ผสมแป้งข้าวเหนียวกับผงถั่ว 5 สี
– ทยอยใส่น้ำอุ่นลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่น้ำใบเตย นวดให้เข้ากัน
– ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม แล้วคลึงเป็นเส้นยาว กดลงให้แบนลงครึ่งหนึ่ง ทำจนหมดแป้ง
– นำใส่ซึ้งนึ่ง โดยวางบนผ้าขาวบาง ใช้ไฟแรงประมาณ 8- 10 นาที
– นำขนมที่นึ่งสุก ไปคลุกกับมะพร้าวนึ่งที่เตรียมไว้
5.จัดขนมใส่จาน เวลาจะกิน ราดด้วยน้ำเชื่อม โรยข้าวพองด้านบน
*ข้าวโรยหน้าขนม จะใช้ข้าวเหนียวแช่น้ำ แล้วนำไปคั่วให้กรอบ โรยขนม ก็อร่อยนะ แต่จะแข็งกว่าข้าวพอง
*ทำเองไม่ยากนะ ผสมมันม่วงลงไปสีจะสวยเลย ที่เขาขาย จะใส่แบะแซในน้ำเชื่อม เพื่อให้ข้น ทำให้ไม่ค่อยอร่อย บางเจ้าก็ไม่เคี่ยวน้ำตาล เขาจะใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปเลย เพื่อให้สีเข้ม ทำเองอร่อย ต้องเคี่ยวน้ำเชื่อมจากน้ำตาลโตนด ถึงจะอร่อย ไม่หวานแหลมค่ะ
เพื่อนๆสมาชิกแฟนเพจอย่าลืมกลับไปลองหาโอกาสทำเมนู ขนมเหนียว อาหารว่างไทยโบราณเอาไว้ทานกันนะคะ หรือจะลองต่อยอดทำขายเพื่อสร้างรายได้อีกช่องทางก็นับว่าน่าสนใจทีเดียว อย่างน้อยก็เป็นการอนุรักษ์สืบสานเมนูอาหารไทยเอาไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไปค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ โปรดส่งต่อเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลสูตรและภาพจาก.Supaporn Kumnodnae
